วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562


ประวัติความเป็นมา  องค์หินตั้ง  บ้านกุตาไก้


ชื่อแหล่งท่องเที่ยว :                องค์หินตั้ง
ประเภทสถานที่ท่องเที่ยว :    สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
สถานที่ตั้ง :             15 หมู่ที่ 9 ต.กุตาไก้ องปลาปาก จ.นครพนม
latitude :              17.22
longitude :          104.64
รายละเอียด :          เป็นสถานที่ศักสิทธิ์ที่ชาวตำบลกุตาไก้ให้ความเคารพนับถือ และศักการะ ซึ่งในเดือน 3 ขึ้น 3 ค่ำของทุกปี จะมีการจัดกิจกรรมนมัสการองค์หินตั้งขึ้น ณ บริเวณโรงเรียนกุตาไก้วิทยาคม
การเดินทาง :          ห่างจากอำเภอปลาปาก 13 กิโลเมตร



ในการศึกษาประวัติความเป็นมาขององค์หินตั้งบ้านกุตาไก้นั้น  คณะผู้วิจัยได้ศึกษารวบรวมข้อมูลทั้งข้อมูลชั้นต้นและข้อมูลชั้นรองจาก  ผู้รู้  ผู้นำหมู่บ้าน ชาวบ้านกุตาไก้   รวมถึงได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากเอกสารบางส่วนสามารถสรุปผลการศึกษา โดยการแบ่งเป็น  3  ยุค  ดังนี้
ยุคที่  1  ตำนานองค์หินตั้ง   เป็นยุคที่กล่าวถึงประวัติการสร้างองค์หินตั้ง  ที่เล่าสืบต่อกันมา
ของชาวบ้านกุตาไก้    ก่อนที่จะมีการตั้งหมู่บ้านกุตาไก้ขึ้น
ยุคที่  2   กำเนิดหมู่บ้านกุตาไก้  ยุคนี้ก็จะกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมโดยรอบของ
องค์หินตั้ง  หลังจากที่มีการตั้งหมู่บ้านกุตาไก้ขึ้น
ยุคที่  3   ห่วงใยลูกหลานร่วมสร้างโรงเรียนกุตาไก้วิทยาคม   ยุคนี้ก็จะกล่าวถึงประวัติความเป็นมาของการก่อตั้งโรงเรียนกุตาไก้วิทยาคม  ซึ่งทำให้องค์หินตั้งได้รับการบูรณะให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม  จนถึงปัจจุบัน



ยุคที่  1  ตำนานองค์หินตั้ง
        “ องค์หินตั้ง   ของชาวบ้านกุตาไก้เป็นรูปเคารพที่ชาวกุตาไก้และหมู่บ้านใกล้เคียงให้ความเคารพสักการะมาช้านาน   มีลักษณะเป็นแผ่นหินรูปใบเสมา   4  แท่ง ไม่มีลวดลายสลักแต่มีแกนตรงกลางแผ่น  และเป็นแท่งหิน เหลี่ยม  5   แท่งเป็นแท่งหินที่มีรูปร่างคล้ายศิวลึงค์อีก  1   แท่ง  สร้างจากหินศิลาแลง  ซึ่งสันนิษฐานว่า  น่าจะเป็นศิลปกรรมสมัยทวารวดี  สังเกตจากลักษณะรูปแบบในการปัก  เป็นการปักประจำทิศ  8  ทิศ  ล้อมรอบแท่งหินลักษณะคล้าย ศิวลึงค์รูปเคารพแทนองค์พระศิวะในศาสนาฮินดู  รวมหินตั้งที่อยู่ในโรงเรียนกุตาไก้วิทยาคมทั้งหมด 10  แท่ง   ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในพื้นที่ของโรงเรียนกุตาไก้วิทยาคม   อำเภอปลาปาก   จังหวัดนครพนม
จากคำบอกเล่าของ  พ่อเฒ่าจันทา  อายุ      ปี  ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านกุตาไก้  เล่าถึงประวัติความเป็นมาขององค์หินตั้งว่า   ตั้งแต่เกิดมาพวกตนก็เห็นองค์หินตั้ง  มีมาพร้อมหมู่บ้านแล้ว  จึงไม่ทราบแน่ชัดว่าผู้ใดเป็นผู้สร้างองค์หินตั้งขึ้นมา   แต่จากคำบอกเล่าสืบต่อกันมาของพ่อแม่ปู่ย่าตายาย   บอกเล่าเป็นแนวทางเดียวกันว่า    ในสมัยที่มีการสร้างองค์พระธาตุพนม ( พ.ศ. ) ได้มีคนกลุ่มหนึ่ง  ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า   คน  8  ศอก   ทราบข่าวว่าจะมีการสร้างองค์พระธาตุพนมที่ภูกำพร้า ( ปัจจุบันคือ  อำเภอธาตุพนม )  ก็มีความเลื่อมใสศรัทธาคิดจะร่วมสร้างองค์พระธาตุด้วย   จึงช่วยกันขนเอาหินศิลาแลงแล้วเดินทางมุ่งหน้าสู่ภูกำพร้า   แต่พอเดินทางมาถึงพื้นที่  ที่เป็นที่ตั้ง   ขององค์หินตั้งในปัจจุบัน   ซึ่งแต่เดิมบริเวณพื้นที่แห่งนี้มีลักษณะเป็นป่าและมีทางเดินเท้าผ่านไปหมู่บ้านใกล้เคียง  ก็ทราบข่าวว่าองค์พระธาตุพนมนั้นได้สร้างเสร็จแล้ว  ด้วยความเหน็ดเหนื่อยกลุ่มคน  8  ศอก  จึงหยุดพักและได้ปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรกับหินที่นำมานี้  ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า  หินนี้เป็นหินที่จะนำไปสร้างองค์พระธาตุพนม  ดังนั้นจึงถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์  จะทิ้งไว้เฉยๆไม่ได้ต้องมีคนเฝ้าดูแล  สมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มคนยอกผู้หนึ่งไม่ได้ต้องมีคนเฝ้าดูแลือว่าเป็นของมีคนเฝ้า  8  ศอก  ได้อาสาที่จะเป็นคนเฝ้า  หัวหน้ากลุ่มคน  8   ศอก จึงตัดศรีษะสมาชิกคนนั้น   แล้วนำร่างสมาชิกคนนั้นฝังรวมกับทรัพย์สินที่พวกตนนำติดตัวมา  แล้วนำหินมาตั้งทับเอาไว้

ตั้งแต่นั้นมา  ชาวบ้านที่เดินทางผ่านไปมาก็เรียกหินตั้งด้วยความเคารพ  ศรัทธาว่า   องค์หินตั้ง     เวลาชาวบ้านเดินทางผ่านไปผ่านมา  ก็จะแสดงความเคารพองค์หินตั้ง  โดยการนำเครื่องสักการะมาบูชา  หรือ  หากผู้ใดไม่ได้นำเครื่องสักการะบูชามาด้วย  ชาวบ้านก็จะหักเอากิ่งไม้ริมทางมาเป็นเครื่องสักการะแทน เครื่องสักการะองค์หินตั้ง  ได้แก่  ดอกไม้สีแดง  5  คู่  , เทียน  5  คู่   หรือที่ชาวอีสานเรียกว่า   ขัน 5   ที่ใช้ดอกไม้สีแดง  พ่อเฒ่าจันทาบอกว่า เพราะดอกไม้สีแดงใช้ในการบูชา   ผี   ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าองค์หินตั้งมีวิญญาณของผีผู้คุ้มครองสถิตอยู่  หากผู้ใดไม่ให้ความเคารพหรือกระทำการอันเป็นการลบหลู่  บุคคลนั้นก็จะประสบกับเหตุการณ์เลวร้ายหืออาจถึงกับเสียชีวิต  ตรงกันข้ามกผู้ใดให้ความเคารพศรัทธาเลวร้ายหืออาจถึงกับชีวิต  หากบุคคลใดให้ความเคารพศรัทธาต่อองค์หินตั้ง บุคคลนั้นก็จะได้รับการคุ้มครอง และประสบผลสำเร็จในกิจการงานที่ทำ   ส่วนดอกไม้สีขาวนั้นใช้ในการประกอบพิธีมงคล  จากคำบอกเล่าของพ่อเฒ่าจันทา  มีความคล้ายคลึงกับคำบอกเล่าของ  นายและนาง



ยุคที่  2   กำเนิดหมู่บ้านกุตาไก้
จากคำบอกเล่าของ  พ่อเฒ่าเสย   อายุ  64  ปี  อดีตผู้ใหญ่บ้าน  บ้านกุตาไก้หมู่  4  กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านกุตาไก้ว่า  แต่เดิมนั้นราษฎรในบ้านกุตาไก้  ได้อพยพมาจากบ้านตากไชยบุรี   ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง หรือก็คือสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในปัจจุบัน   สาเหตุที่อพยพมา  เนื่องจากสมัยนั้นเกิดโรคระบาดอย่างรุนแรง ประกอบกับเกิดสงครามแย่งชิงอำนาจกันเอง  ชาวบ้านดังกล่าวจึงอพยพข้ามแม่น้ำโขงมายังบริเวณใกล้หนองน้ำใหญ่   ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า  กุด   จึงพร้อมใจกันตั้งหมู่บ้านที่บริเวณนี้ และ ตั้งชื่อว่า   บ้านกุดตาไก้    ภายหลังเพี้ยนเป็น   บ้านกุตาไก้   ขึ้นกับอำเภอเมือง  จังหวัดนครพนม  และได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นตำบลกุตาไก้   อำเภอเมืองนครพนม  เมื่อปี พ.ศ.2507   ต่อมาปลาปากได้แยกการปกครองออกเป็นกิ่งอำเภอปลาปาก  ทำให้ตำบลกุตาไก้   ขึ้นกับกิ่งอำเภอปลาปากแทน  ปี พ.ศ.  2514   กิ่งอำเภอปลาปาก  ก็ได้ยกฐานะเป็นอำเภอปลาปาก   ภาษาที่ชาวกบ้านกุตาไก้ใช้   คือ ภาษากะเลิง   ปัจจุบันเป็นตำบลที่ตั้งในเขตการปกครองของอำเภอปลาปาก ประกอบด้วยหมู่ 12 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ 1 บ้านนางาม หมู่ 2 บ้านโพนทา หมู่ 3 บ้านดอนดู่ หมู่ 4 บ้านกุตาไก้ หมู่ 5 บ้านกุตาไก้ หมู่ 6 บ้านวังโพธิ์ หมู่ 7 บ้านนาเรียง หมู่ 8 บ้านนาดอกไม้ หมู่ 9 บ้านโคกสะอาด หมู่ 10 บ้านกุตาไก้ หมู่ 11 บ้านนาดอกไม้ หมู่ 12 บ้านดอนดู่
พ่อเฒ่าเกตุ   ดวงดีแก้ว   อายุ   63  ปี   กล่าวว่า  ภายหลังจากที่มีการตั้งหมู่บ้านขึ้น  ในยุคแรกๆ  ของการก่อตั้งหมู่บ้าน   พื้นที่บริเวณที่ตั้งของ องค์หินตั้ง ในขณะนั้นเป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์ถูกใช้เป็นป่าช้าของหมู่บ้าน  บริเวณองค์หินตั้งถูกปล่อยให้รกร้าง  แต่ก็ยังมีชาวบ้านแวะเวียนเข้ามาสักการบูชาอยู่บ่อยครั้ง   ครั้นเมื่อประมาณปี  พ. ศ . 2514  ท่านพระครูบวร   ศรัทธาภิบาล ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า   หลวงปู่พอง  เจ้าอาวาสวัดบวรศรัทธาราม ( วัดใต้ ) ในขณะนั้น  ได้นำชาวบ้านในหมู่บ้านร่วมกันพัฒนาบริเวณพื้นที่ขององค์หินตั้ง  ให้เหมาะสมกับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และร่วมกันทำป้ายไม้แสดงที่ตั้งขององค์หินตั้ง  ตั้งแต่นั้นมาองค์หินตั้งก็ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่หมู่บ้านกุตาไก้อย่างเป็นทางการมาจนถึงปัจจุบัน

ยุคที่  3  ห่วงใยลูกหลานร่วมสร้างโรงเรียนกุตาไก้วิทยาคม 
     หลังจากที่พระครูบวร ศรัทธาภิบาล (หลวงปู่พอง )  ได้นำชาวบ้านเข้าบูรณะองค์หินตั้งจนเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านแล้ว เมื่อปี  พ.ศ.  2520  ข้าราชการ   ประชาชน   พระสงฆ์   ในเขตตำบลกุตาไก้ – นามะเขือ  อำเภอปลาปาก  จังหวัดนครพนม  มีความต้องการโรงเรียนมัธยมประจำตำบล  อันเนื่องมาจากสถานศึกษาระดับมัธยมที่มีอยู่  อยู่ห่างไกล  การเดินทางของนักเรียนก็ไม่สะดวกและไม่ปลอดภัย  รวมถึงผู้ปกครองนักเรียนก็มีฐานะยากจนไม่สามารถส่งบุตรหลาน  ไปเรียนที่อำเภอปลาปากและจังหวัดนครพนมได้    ทุกฝ่ายจึงมีความเห็นตรงกันว่าควรจะจัดให้มีโรงเรียนมัธยมประจำตำบลกุตาไก้  เมื่อ ปี พ.ศ.  2524   คณะกรรมการสภาตำบลและทุกฝ่าย  สืบค้นที่ขององค์หินตั้งเข้าไปด้วย  องค์หินตั้งเข้าไปด้วยจนเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านแล้ว   สำรวจข้อมูลเพื่อสนองการจัดตั้งโรงเรียน
 พ.ศ.  2526  คณะกรรมการสภาตำบลและทุกฝ่าย  เสนอข้อมูลจัดตั้งโรงเรียนมัธยมประจำตำบลกุตาไก้
พ.ศ.  2527  ประชาชนตำบลกุตาไก้และตำบลนามะเขือ  อำเภอปลาปาก  จังหวัดนครพนมร่วมกันบริจาคเงิน  และจัดสร้างอาคารเรียนชั่วคราว   เป็นไม้ชั้นเดียวขนาด  2  ห้องเรียน  ตั้งอยู่    ที่ดินสาธารณประโยชน์  ซึ่งได้รับความเห็นชอบและอนุญาตจากสภาตำบลกุตาไก้  อำเภอปลาปาก  จังหวัดนครพนม  จำนวน  68  ไร่  2   งาน  40   ตารางวา  ตั้งอยู่ที่บ้านกุตาไก้  อำเภอปลาปาก  จังหวัดนครพนม
เปิดดำเนินการสอนครั้งแรกเมื่อ  วันที่  17  พฤษภาคม  พ.ศ.  2527  โดยใช้ชื่อว่าโรงเรียน  สาขาโรงเรียนปลาปากวิทยาคม 
พ.ศ.  2529  โรงเรียนปลาปากวิทยาคมได้รับบริจาคอาคารเรียนชั่วคราว  จำนวน  1  หลัง  เป็นไม้ชั้นเดียวขนาด  4  ห้องเรียน  กว้าง  8  เมตร  ยาว  36  เมตร
ในวันที่  21  พฤษภาคม  2530  กระทรวงศึกษาธิการ  ประกาศจัดตั้งเป็นโรงเรียนรัฐบาล   โดยใช้ชื่อว่า   โรงเรียนกุตาไก้วิทยาคม 
ท่านอาจารย์ประเสริฐ์   ศรีวรรณ   อายุ  35  ปี (ผู้รู้ ) พนักงานราชการครูโรงเรียนกุตาไก้วิทยาคม  กล่าวว่า  หลังจากที่มีการก่อสร้างโรงเรียนกุตาไก้วิทยาคมขึ้น   องค์หินตั้งก็ประดิษฐานอยู่ในพื้นที่ของโรงเรียนกุตาไก้วิทยาคม โดยมี  นายโกสินทร์   นันทธิโร เป็นผู้อำนวยการคนแรก  ต่อมาในปี พ.ศ. 2546     รั้งแรกมีผูงปู่นรอง องค์การบริหารส่วนตำบลกุตาไก้ได้ทำการบูรณะ องค์หินตั้งใหม่  โดยใช้งบประมาณ  30,000  บาท การบูรณะในครั้งนั้น ได้มีการเปลี่ยนป้ายใหม่จากป้ายไม้เป็นป้ายแบบถาวรโดยการก่ออิฐแล้วนำอิฐมาก่อโดยรอบบริเวณองค์หินตั้งให้เห็นเป็นสถานที่  ที่มีอาณาเขตชัดเจนน่าเคารพสักการะมากขึ้น  ทำให้ องค์หินตั้ง กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณสถานของจังหวัดนครพนมอีกที่หนึ่ง
ต่อมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน   พ.ศ. 2552  ที่ผ่านมา  ทางองค์การบริหารส่วนตำบลกุตาไก้  โดยมี
นายธนฤทธิ์   ผาสุข  เป็นนายก  ได้จัดสรรงบประมาณ  130,000  บาท ในการบูรณะองค์หินตั้งอีกรอบ   การบูรณะครั้งนี้ได้นำหินศิลาแลงมาปูพื้นด้านในบริเวณองค์หินตั้งทั้งหมด     




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประวัติความเป็นมา   “   องค์หินตั้ง   ”   บ้านกุตาไก้ ชื่อแหล่งท่องเที่ยว :                องค์หินตั้ง ประเภทสถานที่ท่องเที่ยว : ...